ทำไมต้องมีคริสตจักร คริสตจักรมีไว้เพื่ออะไรและทำไมคนถึงได้ไปคริสตจักรกัน การรับบัพติศมา การถือมหาสนิทและการถวายบุตรหมายถึงอะไร หนังสือ 154 หน้าเล่มนี้เขียนโดย โรเบิร์ตและอิฟเลน บอลตัน จะตอบคำถามที่คนถามกันบ่อยที่สุดเช่นนี้เรื่องคริสตจักร ประสบการณ์ของมาลี เธอเพิ่งเชื่อพระเจ้าและสุธีคู่หมั้นของเธอ จะตามติดไปตลอดทั้งเล่มเพื่อแสดงตัวอย่างทางพระคัมภีร์ให้เห็นว่าคริสตจักรทำอะไรและเพราะเหตุใดจึงทำเช่นนั้น
ตัวอาคารคริสตจักรบางครั้งจะเรียกว่าเป็น “บ้านแห่งการนมัสการ” นี่เป็นชื่อที่เหมาะสมเพราะมีจุดประสงค์เพื่อเป็นสถานที่สาหรับนมัสการพระเจ้าร่วมกัน พระเยซูทรงสอนเราว่า พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ปรารถนาการนมัสการของเรา แม้ว่าชาวสวรรค์ทั้งสิ้นนมัสการพระองค์อยู่ตลอดเวลา กระนั้นพระองค์ยังคงปรารถนาการนมัสการจากเรา เพราะเป็นการนำเราเข้าร่วมในการสามัคคีธรรมกับพระองค์
คริสตจักรต่างๆที่ยอมรับในฤทธิ์อานาจแห่งพระวจนะของพระเจ้าก็ทำให้พระวจนะของพระเจ้าได้รับเกียรติและรับการยกชูขึ้น ศิษยาภิบาลของคริสตจักรเหล่านี้จะเทศนาพระวจนะของพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อแก่คนทั่วไป คำเทศนาของเขาจะเต็มไปด้วยความจริงแห่งพระวจนะ
ในบทนี้ ท่านจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระวจนะซึ่งได้เทศนาออกไป และยังได้ค้นพบด้วยว่า ทำไมพระวจนะนี้จึงถูกเทศนาออกไปและได้รู้ถึงผลกระทบที่มีต่อชีวิตของผู้ที่ตอบสนองหรือรับเอาพระวจนะนั้นไว้
การสอนความจริงที่ล้าเลิศจากหนังสือที่ล้ำค่า ซึ่งมีผู้เขียนถึงหนังสือพระคัมภีร์มากกว่าที่จะเขียนถึงหนังสือเล่มอื่นและดูเหมือนว่าจะเป็นการเขียนถึงอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ความจริงแห่งพระคัมภีร์นั้นไม่มีวันหมด เพราะความจริงแห่งพระคัมภีร์ใช้ได้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่การศึกษาพระคัมภีร์ตลอดชีวิต เราจะได้ค้นพบทองคำ เงินและแร่อันล้าค่าในเหมืองแห่งพระวจนะของพระเจ้าซึ่งบรรจุสมบัติอันล้าค่า
คริสตจักรเฉลิมฉลองด้วยพิธีการและเทศกาลที่มีความหมายมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ท่านคงเคยเข้าร่วมงานแต่งงานที่สวยงาม การถวายบุตรหรือพิธีศพที่แสนเศร้าแต่ยังหมายถึงการส่งสมาชิกคริสตจักรที่ล่วงลับไปสู่ที่ประทับของพระเจ้า คริสต์มาส วันอาทิตย์ใบปาล์ม วันศุกร์ประเสริฐ วันอีสเตอร์ และวันขอบคุณพระเจ้าเป็นงานยอดนิยมที่จัดขึ้นในโบสถ์ พิธีกรรมและเทศกาลเหล่านี้และอื่นๆควรทำเพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระธรรมสดุดี 1:3 เปรียบเทียบผู้ที่เชื่อฟังพระเจ้าว่าเป็นดุจดังต้นไม้ที่เจริญเติบโตขึ้นอยู่ริมธารน้ำและเกิดผลตามฤดูกาล พระคริสต์ทรงตั้งคริสตจักรในโลกนี้เพื่อสนองความต้องการ ไม่ใช่เพียงเพื่อได้รับการชมเชยเพราะความโอ่อ่าสง่างามของมัน คริสตจักรเป็นเหมือนต้นไม้ที่เติบโตและรากเกาะแน่นหยั่งลึกลงในน้ำธารงชีวิตซึ่งกิ่งก้านของมันจะออกดอกและเกิดผล
คริสตจักรในปัจจุบันต้องทำพันธกิจตามความต้องการของประชาชน ดังที่คริสตจักรในสมัยพระคัมภีร์ใหม่ได้ทำ ฉะนั้นความมั่งคั่ง การศึกษาและเกียรติยศ ไม่ใช่สิ่งทดแทนฤทธิ์อานาจของพระเจ้าได้เพราะว่า “พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้และเวลาวันนี้และต่อๆไปเป็นนิจกาล”(ฮีบรู 13:8) ดังนั้นขอให้เราทาพันธกิจกับประชาชนในนามของพระองค์เท่านั้น