พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการประกาศข่าวประเสริฐไปยังชนทุกชาติทุกภาษาและทุกหนทุกแห่งที่ไปและอาศัยอยู่ เป็นพระประสงค์ของพระองค์ที่ต้องการให้เราแบ่งปันข่าวประเสริฐนี้ ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตาม ท่านได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้าเพื่อให้บอกคนอื่นถึงประสบการณ์ของท่านเมื่อเชื่อในพระเยซูคริสต์และฤทธิ์อานาจของพระองค์ที่ทรงช่วยท่านนั่นคือ การเป็นพยานส่วนตัวหรือการประกาศที่บทเรียนเล่มนี้จะแนะนำท่านให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ถ้าท่านต้องการสร้างบ้าน อะไรคือสิ่งแรกที่ท่านจะต้องทำ แน่นอนที่สุดที่ท่านจะต้องมีการวางแผนและเขียนแบบแปลนออกมาก่อน
ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม เราพบว่าพระเจ้าตรัสสั่งให้ประชากรของพระองค์สร้างสถานนมัสการไว้ พระองค์ทรงมอบหมายแผนงานให้กับเขา ถ้าหากเขาทำตามแผนที่พระองค์ตรัสไว้ การก่อสร้างก็จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและเป็นที่พอพระทัยแด่พระเจ้า

ท่านคงจำได้ตอนเริ่มต้นฝึกงาน ท่านไม่สามารถเข้าใจหรือเรียนรู้ทุกอย่างได้ภายในวันเดียวแต่ท่านต้องค่อยๆเรียนรู้และรับการฝึกฝนวันละนิดละหน่อย จนในที่สุด ท่านสามารถทำงานนั้นได้เป็นอย่างดี
การเป็นพยานในชีวิตคริสเตียนของท่านก็เหมือนกัน มีหลายอย่างที่ท่านต้องเรียนรู้ก่อนที่ท่านจะไปแบ่งปันเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ให้กับคนอื่นๆ ในบทเรียนนี้ท่านจะได้เรียนรู้ ความต้องการพื้นฐานเพื่อเตรียมตัวสำหรับการประกาศนำดวงวิญญาณมาเพื่อพระคริสต์

สุภาษิตแอฟริกากล่าวไว้ว่า “มือเดียวไม่สามารถสร้างบ้านได้” พระคัมภีร์กล่าวว่า “แม้คนหนึ่งสู้คนเดียวได้ สองคนคงสู้เขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้” (ปัญญาจารย์ 4:12)
คำสุภาษิตเหล่านี้เป็นความจริง ในการสร้างบ้านจำเป็นต้องมีหลายๆคนช่วยเหลือกัน จะให้เฉพาะช่างปูนเท่านั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน พระคริสต์ตรัสว่า “เราจะสร้างคริสตจักรของเรา” พระองค์ทรงเรียกเราให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างร่วมกับพระองค์ เราทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วม

เราได้พูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญในการมีส่วนร่วม ตอนนี้เรามาดูวิธีมีส่วนร่วมโดยแบ่งปันเรื่องที่พระคริสต์ทรงกระทำเพื่อเรา เราจะเก็บข่าวดีดังกล่าวไว้กับตัวเองได้อย่างไร เราต้องแบ่งปันกับผู้อื่น

ความต้องการของคนมากมายที่อยู่รอบๆตัวเรา หลายคนเสียชีวิตโดยไม่ได้รู้จักพระคริสต์ ขอให้บทเรียนต่อไปนี้เปิดตาของท่านให้ท่านได้เห็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ในการประกาศส่วนตัวและการแบ่งปันข่าวประเสริฐ

มีคำสุภาษิตหนึ่งกล่าวว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” ยิ่งเราเจออุปสรรคมากมาย เราก็จะยิ่งสามารถเอาชนะมันได้ เราได้ศึกษาจากบทเรียนที่แล้วถึงสิ่งที่ต้องการในการประกาศและในบทเรียนต่อไปนี้เราจะศึกษาในเรื่อง เราสามารถมีชัยชนะเหนืออุปสรรคปัญหาในการประกาศพระกิตติคุณได้อย่างไร จำไว้เสมอว่า พระเจ้าจะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

คนแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน แม้ว่าจะอยู่ในประเทศเดียวกันหรือครอบครัวเดียวกันก็ตาม ท่านไม่สามารถสอนให้คนเป็นเหมือนกันหมดได้ วิธีการพูดต่างๆที่นำมาใช้ บางที่อาจจะได้ผล บางที่อาจจะไม่ได้ผลเลยก็ได้ บางทีกับคนคนเดียวกันอาจจะต้องใช้วิธีในการพูดหลายๆวิธีก็ได้ เช่นเดียวกันในการประกาศพระคริสต์
เราได้ศึกษาผ่านมาแล้วว่า เราสามารถเอาชนะอุปสรรคทางด้านศาสนาหรือวัฒนธรรม จำไว้ในใจว่า สิ่งนั้นท่านกาลังเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะเชิญชวนให้คนเหล่านั้นมาเชื่อในพระเจ้า

ท่านคงทราบเกี่ยวกับชื่อของถนนสายต่างๆหรือชื่อของอาคารในหลายๆแห่ง บางชื่อถูกตั้งตามชื่อของคนเพื่อเป็นการให้เกียรติ การทำเช่นนี้เป็นการให้รางวัลหรือเป็นการให้เกียรติกับชื่อคนเหล่านั้นที่เขาเองได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม
นี่เป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่และล้ำค่า ไม่มีเงินเดือนค่าจ้างใดเทียบได้กับเกียรติดังกล่าวและรางวัลทั้งหมดนี้จะสูญสลายไปในสักวันหนึ่ง แต่รางวัลที่พระเจ้าประทานนั้นคงอยู่ชั่วนิรันดร์และไม่มีวันสูญไป